เที่ยวกัน - ที่เที่ยว - 7 ที่เที่ยวนราธิวาส 2567 จุดเช็คอินสวยๆ ที่ห้ามพลาด

7 ที่เที่ยวนราธิวาส 2567 จุดเช็คอินสวยๆ ที่ห้ามพลาด

แนะนำที่เที่ยวนราธิวาส ที่ห้ามพลาด นราธิวาสเป็นจังหวัดหนึ่งในสามจังหวัดชายแดนใต้ของประเทศไทยที่มีความสวยงามทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรมที่น่าสนใจจริงๆ นี่คือพิกัดสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในจังหวัดนราธิวาส ที่เที่ยวกันอยากแนะนำ

น้ำตกปาโจ

น้ำตกปาโจในผืนป่าบูโดเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตื่นเต้นในจังหวัดนราธิวาส โดยมีจำนวนชั้นทั้งหมด 4 ชั้น โดยชั้นแรกเป็นที่มีขนาดใหญ่และสวยงดงามที่สุด ด้วยผาหินกว้างถึง 60 เมตร ทำให้น้ำตกดูสวยงามและมีอำนาจที่น่าตื่นเต้น น้ำตกปาโจและบริเวณรอบๆ ก็มีป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์และครอบคลุมอยู่ทั้งสิ้น ทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับการเดินป่าและสัมผัสกับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังมีสัตว์ป่าที่น่าสนใจอย่างค่างแว่นถิ่นใต้และนกกาฝากท้องสีส้มที่สามารถพบเห็นได้ในพื้นที่นี้ นอกจากนี้ยังมีย่านดาโอ๊ะหรือใบไม้สีทองที่เป็นพันธุ์ไม้ที่ถูกค้นพบเป็นครั้งแรกที่นี่ในโลก นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสและชมความงามของไม้สีทองเหล่านี้ได้ในบริเวณที่นี่

เขื่อนท่าพระยาสาย

เขื่อนท่าพระยาสายเป็นจุดเช็กอินใจกลางเมืองนราธิวาสที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบเพื่อพักผ่อนและผ่อนคลายจิตใจ ที่นี่มีบรรยากาศเงียบสงบและสดชื่น ตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางนราซึ่งให้การมองเห็นวิวที่สวยงามของแม่น้ำและพระอาทิตย์ตกที่สวยงามในเวลาเย็น นอกจากนี้เขื่อนท่าพระยาสายยังมีรูปปั้นนกเงือกจำนวนมากกว่า 101 ตัวซึ่งเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวสามารถถ่ายรูปเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกได้อีกด้วย คุณสามารถนั่งรับลมเย็นๆ อยู่ในบริเวณเขื่อน และเพลิดเพลินกับวิวที่สวยงามและบรรยากาศที่เงียบสงบได้เต็มอิ่มที่นี่

มัสยิดวาดีลฮูเซ็น มัสยิด 300 ปี

มัสยิดวาดีลฮูเซ็น (หรือมัสยิดตะโละมาเนาะหรือมัสยิด 300 ปี) เป็นสถานที่ที่น่าสนใจในจังหวัดนราธิวาส มัสยิดนี้ถูกก่อตั้งโดยนายวันฮูเซ็น อัส-ซานาวี ผู้อพยพมาจากบ้านสะนอยานยาในปี พ.ศ. 2167 มัสยิดนี้มีความเป็นเอกลักษณ์ที่น่าสนใจอย่างมาก สิ่งที่โดดเด่นของมัสยิดวาดีลฮูเซ็นคืออาคาร 2 หลังที่ติดกัน ซึ่งสร้างด้วยไม้ตะเคียนทั้งหลัง และใช้ไม้สลักแทนตะปู รูปทรงของอาคารนั้นเป็นแบบไทยพื้นเมืองที่ประยุกต์กับศิลปะแบบจีนและมลายู คุณสามารถเดินเที่ยวชมด้านนอกของมัสยิดได้เลย อย่างไรก็ตามหากคุณต้องการเข้าชมด้านใน คุณจะต้องขออนุญาตจากโต๊ะอิหม่ามประจำหมู่บ้านก่อน

ผานับดาว

ทะเลหมอกบ้านภูเขาทอง (หรือทะเลหมอกบนภูเขาทอง) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่ตั้งอยู่ในตำบลภูเขาทอง อำเภอสุคิริน ภายในเขตพื้นที่ป่าฮาลา-บาลา การเดินทางไปยังทะเลหมอกที่นี่ไม่ยากเกินไป หลังจากจอดรถที่จุดจอดรถ คุณสามารถเดินเท้าต่อไปได้เพียงประมาณ 800 เมตรเท่านั้น แม้ว่าระหว่างทางอาจจะมีการปีนป่ายเล็กน้อยและเดินขึ้นทางชันบ้าง แต่ไม่ได้ยากมากเกินไป ทะเลหมอกที่นี่สามารถชมได้ตลอดทุกฤดู ไม่จำเป็นต้องรอถึงปลายปี เพราะความหมอกหนาแน่นเป็นเองที่นี่ คุณสามารถมาชมทะเลหมอกที่นี่ได้ทุกเวลา นี่เป็นประสบการณ์ที่เก๋และน่าตื่นเต้นอย่างแน่นอน!

หาดบ้านทอน

หาดบ้านทอนเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจในภาคใต้ของประเทศไทย นอกจากบรรยากาศของหาดทรายขาวและน้ำทะเลใสที่สวยงามแล้ว ที่นี่ยังเป็นแหล่งผลิตเรือกอและจุดที่เหลืออยู่เพียงแห่งสุดท้ายในจังหวัดนราธิวาส บนหาดนี้คุณจะได้เห็นเรือสวยสีสันสดใสจอดเรียงรายอยู่ตามชายหาด ซึ่งเป็นทั้งเรือประมงและเรือท่องเที่ยวที่สามารถสัมผัสและถ่ายรูปได้ใกล้ชิด นอกจากนี้ยังสามารถพบกับวิถีชีวิตของชาวประมงท้องถิ่นได้เป็นอีกพิเศษ คุณสามารถเดินเล่นและชมการทำงานของชาวประมงได้อย่างใกล้ชิด ในการเดินเล่นที่หาดบ้านทอนนี้ คุณจะได้สัมผัสความเพลิดเพลินและเพลิดเพลินไปกับการสำรวจหาโลเกชั่นและถ่ายรูปอย่างมีความสุข อย่าลืมแวะมาเช็คอินเพื่อให้มีความทรงจำที่ดีกับการเยือนชายหาดบ้านทอนนี้นะคะ

อ่าวมะนาว

อ่าวมะนาวเป็นหนึ่งในชายหาดที่ยาวและสวยงามในปัตตานี มันเริ่มต้นจากชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกและยาวต่อเนื่องกว่า 4 กิโลเมตร บริเวณนี้จะมีโขดหินสลับกับหาดทรายอยู่เป็นระยะๆ ทำให้มีบรรยากาศร่มรื่นและเงียบสงบอันสุดท้าย นอกจากการเพลิดเพลินกับทะเลและหาดทรายที่สวยงาม ที่อ่าวมะนาวยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่คุณสามารถเดินเล่นได้อย่างชิลๆ คุณสามารถสนุกกับการเดินเที่ยวในป่าชายหาดและสัมผัสกับธรรมชาติอันงดงามได้ในบรรยากาศที่เงียบสงบ นี่เป็นที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนและผ่อนคลายอย่างแท้จริง

น้ำตกสิรินธร

น้ำตกสิรินธรเป็นน้ำตกที่มีลักษณะที่แตกต่างจากน้ำตกทั่วไป นี่เพราะว่าน้ำตกนี้ไม่มีผาสูงชันที่ทำให้เกิดสายน้ำไหลจากที่สูง แต่เป็นสายน้ำที่ไหลลงตามลาดจากแนวป่าด้านบน ตลอดเส้นทางของน้ำตกยังมีแอ่งน้ำและลานหินที่สร้างสรรค์ไว้ให้คุณแวะนั่งเล่นชิลล์ได้ตลอดทาง หากคุณต้องการลงเล่นน้ำ ควรใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากบางช่วงกระแสน้ำอาจจะแรงมาก ว่ากันว่าหากคุณตรวจสอบเวลาในสมาร์ทโฟนจะพบว่าเวลาที่คุณเดินหน้าเร็วกว่าปกติประมาณหนึ่งชั่วโมง เนื่องจากระบบไฟฟ้าจะมีการจับสัญญาณเวลามาเลย์ออกมา โดยในบางกรณีอาจมีความคลาดเคลื่อนในการแสดงผลเวลา อย่างไรก็ตามคุณสามารถทดลองดูเพื่อตรวจสอบได้เองว่าจริงหรือไม่